wordpress-seo-checklist-for-beginners

เริ่มต้น ทำ SEO WordPress อย่าลืมตรวจสอบ 5 รายการนี้

WordPress เป็นระบบจัดการเนื้อหา (CMS) ที่ใช้งานง่าย ผู้ใช้สามารถสร้างเว็บไซต์โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านการเขียนโปรแกรม จึงเป็นที่นิยมมากในหมู่บล็อกเกอร์เพราะทำให้การสร้างเว็บไซต์ทำได้ง่ายและรวดเร็ว ปรับแต่งคุณสมบัติได้ด้วยธีมสวย ๆ และปลั๊กอินที่มีฟีเจอร์น่าสนใจให้เลือกตามต้องการ แต่มีหลายสิ่งที่คุณต้องพิจารณาเมื่อต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการทำ SEO WordPress ในบทความนี้จะกล่าวถึงปัจจัยพื้นฐานที่ทุกเว็บไซต์ต้องมี ก่อนจะต่อยอดในรายละเอียดเชิงลึกต่อไป

1. ติดตั้งใบรับรอง SSL

หากคุณต้องการปรับปรุงประสิทธิภาพ SEO ให้เว็บไซต์ ต้องติดตั้งระบบการรับรอง SSL บนเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งเป็นการเข้ารหัสรับส่งข้อมูลที่มีความปลอดภัยจากการถูกแฮ็กได้ เข่น ข้อมูลส่วนตัว ชื่อ รหัสผ่าน หมายเลขบัตรเครดิต เป็นต้น ในขณะที่ผู้เข้าชมใช้งานเว็บไซต์ของคุณ หากคุณเว็บไซต์คุณยังไม่ติดตั้งระบบ SSL เรามี บริการติดตั้ง SSL ซึ่งจะทำให้มีการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยระหว่างเว็บเบราว์เซอร์และเซิร์ฟเวอร์ของคุณ ทุกคนที่เข้าชมเว็บไซต์ของคุณจะเห็นไอคอนแม่กุญแจก่อนที่อยู่ URL ของคุณ

2. ตั้งค่าปลั๊กอินเพื่อ SEO เช่น Yoast SEO

เว็บไซต์ WordPress มีปลั๊กอินด้าน SEO อยู่หลายเจ้าให้เลือก เช่น AIO หรือ All-in-one SEO, Yoast SEO, RankMath และอื่น ๆ ซึ่ง Yoast SEO ก็เป็นอีกปลั๊กอินที่มีคนนิยมใช้กันมาก มีฟีเจอร์ให้ตั้งค่าหลายอย่าง มีทั้งแบบฟรีและพรีเมียมที่มีเสริมฟีเจอร์สำคัญอีกหลายประการ เมื่อคุณติดตั้งใบรับรอง SSL แล้ว คุณต้องตั้งค่า Yoast SEO เพียงทำตามขั้นตอนเหล่านี้

1) ไปที่แผงควบคุมหรือ Dashboard > ปลั๊กอิน > เพิ่มปลั๊กอินใหม่

2) ค้นหา “ Yoast SEO

3) คลิกติดตั้งและเปิดใช้งาน และทำตามขั้นตอนที่ระบบแนะนำไปทีละขั้นตอน จากนั้นทุก ๆ หน้าและเรื่อง จะมีส่วนให้ตั้งค่า Meta Title และ Meta Description ซึ่งมีความสำคัญในการทำ SEO ให้กับเว็บไซต์

3. สร้างโครงสร้างลิงก์ถาวร (Permalink) แบบกำหนดเอง

หากคุณไม่คุ้นเคยกับ ลิงก์ถาวร โดยปกติแล้วจะเป็น URL ที่ทำให้คุณไปยังส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ของคุณได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ Google และ search engine ต่าง ๆ ก็ใช้ลิงก์ถาวรนี้จัดทำดัชนีสำหรับเว็บไซต์ต่าง ๆ ด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าลิงก์ถาวรของคุณได้รับการปรับให้เหมาะสมแล้ว ให้ไปที่ การตั้งค่า > ลิงก์ถาวร แล้วเลือกตัวเลือกใดตัวเลือกหนึ่ง

4. เพิ่มมาร์กอัปสคีมา

การเพิ่มมาร์กอัปสคีมาจะช่วยให้ Google เข้าใจว่าแต่ละส่วนในหน้าเว็บของคุณเกี่ยวกับอะไร เป็นวิธีที่ง่ายในการเพิ่มโครงสร้างให้กับเนื้อหาของคุณ หากคุณไม่คุ้นเคยกับมาร์กอัปสคีมา โดยทั่วไปแล้วจะเป็นชุดแท็กที่บอก search engine ว่าหน้าเว็บหนึ่ง ๆ มีเนื้อหาประเภทใด ซึ่งช่วยให้ search engine เข้าใจบริบทของเนื้อหาบนหน้าเว็บ และระบุได้ดีขึ้นว่าควรปรากฏในผลการค้นหาหรือไม่ มาร์กอัปสคีมามี 3 ประเภทหลัก ได้แก่ ชื่อ (Title) คำอธิบาย (Meta Description) และรูปภาพ (Image) ชื่อเรื่องและคำอธิบายใช้เพื่ออธิบายเนื้อหาบนหน้าเว็บเพจ มาร์กอัปสคีมารูปภาพ อธิบายรูปภาพบนหน้า

5. แก้ไขลิงก์เสีย (Broken Link)

ระหว่างการทำเว็บไซต์ ไม่ว่าเริ่มต้นหรือทำเว็บมาระยะหนึ่งแล้ว อาจจะเกิดลิงก์เสียขึ้นได้ ทั้งการพิมพ์ URL ผิด หรือมีการลบหน้าเดิมทิ้งไปแล้ว ซึ่งหมายความว่าหน้าบนเว็บไซต์ของคุณเชื่อมโยงไปยังหน้าอื่นอย่างไม่ถูกต้อง ลิงก์ที่เสียเหล่านี้ทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดีและอาจทำให้เกิดปัญหากับการทำ SEO ได้เช่นกัน หากคุณไม่แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณมีลิงก์เสียหรือไม่ ให้ใช้ตัวตรวจสอบลิงก์ออนไลน์ฟรี Link Checker – The W3C Markup Validation Service สิ่งนี้จะบอกคุณว่ามีลิงก์เสียในเว็บไซต์ของคุณหรือไม่ หากตรวจพบก็แจ้งผู้ดูแลเว็บไซต์ หรือผู้ให้บริการรับทำเว็บไซต์ของคุณจัดการแก้ไขให้เรียบร้อย

การทำ SEO มีกระบวนการและขั้นตอนที่มีรายละเอียดค่อนข้างมาก การเริ่มต้นปรับแต่งจาก 5 รายการข้างต้น จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดี เมื่อผ่านตรงนี้แล้วก็ให้ตรวจสอบดำเนินการขั้นตอนอื่น ๆ ได้ต่อไป ซึ่งเราจะทยอยนำมาแนะนำกันในบทความต่อ ๆ ไป และหากคุณต้องการเริ่มต้นหาคนทำเว็บไซต์ เราก็มีบริการ รับทำเว็บไซต์ wordpress เพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณมีเว็บไซต์คุณภาพที่พร้อมใช้งานได้

หลังจากอ่านบทความนี้จบแล้ว คุณคิดว่า SEO มีความจำเป็นต่อเว็บไซต์ของคุณหรือไม่

สอบถามบริการ รับทำเว็บไซต์ แก้ไขเว็บไซต์ คลิก

Scroll to Top