7 ปัญหายอดฮิตของเว็บไซต์ WordPress และวิธีแก้ไขแบบมืออาชีพ

การสร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเรื่องยาวนาน เพราะมีข้อดีทั้งการสร้างเว็บไซต์ได้ง่าย มีธีมและปลั๊กอินเสริมให้เลือกใช้ได้หลายแบบตามฟังก์ชั่นที่ต้องการ แต่การดูแลให้เว็บไซต์ทำงานได้อย่างราบรื่นนั้นก็เป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึงด้วย เนื่องจาก code จากผู้พัฒนาและระบบ hosting รวมถึง version php ก็มีการปรับปรุงอยู่เสมอ ปัญหาโดยทั่วไปก็มีอยู่บ้างเป็นเรื่องปกติ  อาจมีตั้งแต่เว็บไซต์โหลดช้าไปจนถึงปลั๊กอินเกิดการขัดแย้งกันเอง หรืออยู่ ๆ เว็บไซต์ก็เกิดข้อผิดพลาดร้ายแรงขึ้นมาเป็นหน้าสีขาวว่าง ๆ มีข้อความ error หรือโดนมัลแวร์โจมตี ทำให้เว็บไซต์ทำงานผิดพลาด เข้าเว็บแล้วเด้งไปเว็บอื่น ทั้งหมดนี้สามารถเกิดขึ้นได้แม้แต่กับผู้ใช้งานที่มีประสบการณ์

ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของเว็บไซต์เองหรือผู้ดูแลเว็บ การรู้วิธีแก้ไขปัญหาเหล่านี้จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณสามารถทำงานได้ตามปกติอย่างที่ควรจะเป็น

มาดู 7 ปัญหาหลักที่มักพบในเว็บไซต์ WordPress พร้อมแนะนำวิธีแก้ไขที่เหมาะสม เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณทำงานได้ราบรื่น ช่วยให้ทั้งคุณและผู้ชมได้รับประสบการณ์ใช้เว็บที่ดี

 

ปัญหา 1: เว็บไซต์โหลดช้า

เว็บไซต์ที่โหลดช้ามักทำให้ผู้เยี่ยมชมรู้สึกเบื่อ ไม่อยากรอ และอาจกดปิดหน้าเว็บไปก่อนที่จะได้เห็นเนื้อหาของเว็บ นอกจากนี้ยังส่งผลเสียต่ออันดับในการค้นหาบน Google อีกด้วย สาเหตุหลักของปัญหานี้มักมาจากภาพที่ไม่ได้ปรับขนาด การเรียกใช้ไฟล์ต่าง ๆ เยอะเกินไป และบริการโฮสติ้งราคาถูกที่ประสิทธิภาพต่ำ

แนวทางแก้ไข:

  • เริ่มจากการบีบอัดภาพโดยใช้เครื่องมืออย่าง TinyPNG หรือ WP Smush เพื่อลดขนาดภาพโดยไม่ลดคุณภาพ
  • ใช้เทคนิค Lazy Load ให้ภาพโหลดก็ต่อเมื่อผู้ใช้เลื่อนมาถึง
  • ลดจำนวนการร้องขอ HTTP เช่น การรวมไฟล์ CSS/JS และใช้ CSS Sprite
  • อัปเกรดแพ็กเกจโฮสติ้งเป็นแบบ WordPress Hosting โดยเฉพาะ หรือ Cloud WordPress Hosting หรือ VPS เพื่อความเร็วและเสถียรภาพที่ดีกว่า

 

ปัญหา 2: ปลั๊กอินตีกัน หรือทำงานขัดแย้งกันเอง

แม้ปลั๊กอินจะช่วยเสริมฟีเจอร์ให้กับเว็บไซต์ แต่ถ้าใช้เยอะเกินไป หรือมีปลั๊กอินที่ไม่เข้ากัน ก็อาจทำให้เว็บไซต์ทำงานผิดพลาดหรือพังไปเลย

แนวทางแก้ไข:

  • ปิดปลั๊กอินทั้งหมด แล้วเปิดทีละตัวเพื่อหาต้นตอของปัญหา
  • หาปลั๊กอินที่ทำงานได้เหมือนกันแต่เสถียรกว่า หรือสอบถามผู้พัฒนา
  • ใช้ปลั๊กอินเท่าที่จำเป็น เลือกตัวที่ทำงานได้หลายอย่างในตัวเดียว
  • อัปเดตปลั๊กอินอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้เข้ากับ WordPress เวอร์ชันล่าสุด

 

ปัญหา 3: ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย

เว็บไซต์ WordPress มักตกเป็นเป้าหมายของแฮกเกอร์ หากไม่ดูแลเรื่องความปลอดภัยให้ดี อาจทำให้ข้อมูลรั่วไหล หรือเว็บไซต์ถูกโจมตีจนเสียหาย

แนวทางแก้ไข:

  • อัปเดต WordPress, ธีม และปลั๊กอินให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ
  • ใช้รหัสผ่านที่รัดกุม และเปลี่ยนเป็นประจำ
  • ติดตั้งระบบยืนยันตัวตนแบบ 2 ขั้นตอน (Two-Factor Authentication)
  • สำรองข้อมูลอัตโนมัติด้วยปลั๊กอินอย่าง UpdraftPlus หรือ BackupBuddy
  • ใช้ปลั๊กอินรักษาความปลอดภัย เช่น Jetpack, Wordfence หรือ Sucuri

 

ปัญหา 4: ธีมไม่เข้ากับระบบ

ธีมที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่ได้อัปเดต อาจทำให้เว็บไซต์แสดงผลผิดเพี้ยน หรือใช้งานร่วมกับปลั๊กอินไม่ได้

แนวทางแก้ไข:

  • เลือก ธีม wordpress จากแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น ธีมที่พัฒนาโดย wordpress, astra, DIVI หรือ ThemeForest เป็นต้น
  • ทดสอบธีมบนเว็บไซต์ทดสอบ (Staging Site) ก่อนใช้งานจริง
  • หากมีปัญหา ให้ปิดปลั๊กอินทั้งหมดและเปิดทีละตัวเพื่อตรวจสอบ
  • ติดต่อผู้พัฒนาธีมหากไม่สามารถแก้ไขเองได้

 

ปัญหา 5: เว็บไซต์เชื่อมต่อฐานข้อมูลไม่ได้

หากมีปัญหาการเชื่อมต่อฐานข้อมูล เว็บไซต์จะไม่สามารถแสดงผลได้เลย ปัญหานี้มักเกิดจากข้อมูลเชื่อมต่อผิดพลาด ฐานข้อมูลเสีย หรือเซิร์ฟเวอร์มีปัญหา

แนวทางแก้ไข:

  • ตรวจสอบไฟล์ wp-config.php ให้แน่ใจว่าชื่อฐานข้อมูล, username, password, และ host ถูกต้อง
  • ใช้เครื่องมือซ่อมแซมฐานข้อมูลของ WordPress โดยเพิ่ม define(‘WP_ALLOW_REPAIR’, true);
  • ติดต่อโฮสต์เพื่อตรวจสอบปัญหาเซิร์ฟเวอร์
  • ใช้ปลั๊กอินอย่าง WP-Optimize เพื่อบำรุงรักษาฐานข้อมูลเป็นประจำ

 

ปัญหา 6: SEO ไม่ดี

หากเว็บไซต์ของคุณไม่ได้รับการปรับแต่ง SEO อย่างเหมาะสม ก็ยากที่จะติดอันดับในการค้นหาบน Google ส่งผลให้มีผู้เข้าชมลดลง

แนวทางแก้ไข:

  • ศึกษาคำค้น (Keyword) ที่กลุ่มเป้าหมายใช้ แล้วใส่ในบทความ หัวข้อ และคำอธิบาย
  • ใช้ปลั๊กอินช่วย SEO อย่าง Yoast SEO หรือ All in One SEO Pack
  • ผลิตเนื้อหาคุณภาพ ตรงประเด็น และตอบโจทย์ผู้อ่าน
  • ปรับเว็บไซต์ให้โหลดเร็วและแสดงผลได้ดีบนมือถือ

 

ปัญหา 7: อัปเดต WordPress ยาก

หลายคนกลัวการอัปเดต WordPress เพราะอาจทำให้เว็บไซต์พัง ปลั๊กอินเสีย หรือธีมไม่เข้ากัน

แนวทางแก้ไข:

  • สำรองข้อมูลก่อนอัปเดตเสมอ
  • ใช้เว็บไซต์ทดสอบ (Staging) เพื่อทดลองอัปเดตก่อนใช้งานจริง
  • เปิดใช้งานการอัปเดตอัตโนมัติสำหรับอัปเดตเล็ก ๆ และปลั๊กอิน
  • ตรวจสอบรายละเอียดอัปเดตก่อนลงกับเว็บไซต์จริง

 

สรุป: ดูแลเว็บไซต์ WordPress อย่างไรให้มือโปร

  1. การดูแลเว็บไซต์ WordPress ให้ทำงานได้ดีตลอดเวลานั้นต้องใส่ใจทั้งเรื่องความเร็ว ความปลอดภัย ความเข้ากันของปลั๊กอินและธีม ไปจนถึงการทำ SEO และการสำรองข้อมูล
  2. เลือกใช้บริการโฮสติ้งที่เชื่อถือได้ มีระบบสแกนมัลแวร์ ระบบแบ็กอัปข้อมูล อัปเดตระบบสม่ำเสมอ
  3. หมั่นตรวจสอบปัญหาต่าง ๆ เป็นประจำ หากพบปัญหาจะได้แก้ไขได้ทัน แล้วเว็บไซต์ของคุณจะสามารถให้บริการผู้ใช้อย่างราบรื่นและน่าเชื่อถือ
  4. หากยังไม่มีผู้แก้ไขให้ ทาง winwebseo ของเราก็มีบริการ รับแก้ไขเว็บไซต์ ด้วย ไม่ว่าจะแก้ไขเล็กน้อย ปรับแก้ไขหลายส่วน หรือปรับธีม รวมไปถึงการออกแบบเว็บไซต์ใหม่

สอบถามบริการ รับทำเว็บไซต์ แก้ไขเว็บไซต์ คลิก

Scroll to Top